ทำความรู้จัก เอบิว และลูกมอนสเตอร่า ผลไม้ที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้ เห็นหน้าตาแปลก แต่รสชาติอร่อยฟินจนต้องหาซื้อมาลองชิมสักครั้ง

เลื่อนฟีดทีไร ต้องสะดุดตากับผลไม้แปลก ๆ ที่เหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์พากันรีวิวในช่วงนี้ อยากจะซื้อมาลองลิ้มชิมรสบ้างแต่ก็ต้องชะงักว่า ผลไม้นั้นชื่ออะไร  วันนี้ Inter Express จะพามาทำความรู้จักผลไม้ 2 ชนิด คือ เอบิว ลูกมอนสเตอร่า ผลไม้ชื่อแปลกที่บอกเลยว่าเกิดมาเพิ่งเคยได้ยินชื่อ แถมยังหากินยาก รสชาติเป็นยังไง? มาจากไหน? มาหาคำตอบไปพร้อมกันเลย!

‘เอบิว’ ผลไม้เปลือกสีเหลืองทอง เนื้อเยลลี่ละมุนลิ้น

เอบิวคืออะไร?

เอบิว (Abiu) หรือบางคนก็เรียกว่า อะบิว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pouteria caimito เป็นผลไม้เมืองร้อน ต้นกำเนิดมาจากประเทศแถบลุ่มน้ำแอมะซอนอเมริกาใต้ อย่างประเทศบราซิล เปรู และโคลอมเบีย ก่อนจะแพร่หลายมายังเอเชียบ้านเรา 

ลักษณะผลทรงกลมไปจนถึงรี เปลือกเรียบ เมื่อสุกเปลือกจะมีสีเหลืองทอง จนได้รับขนานนามว่า ผลไม้ทองคำ เนื้อข้างในสีขาวใสคล้ายวุ้นหรือเยลลี มีเมล็ดสีดำขนาดใหญ่ ส่วนรสชาติหลายคนก็รีวิวแตกต่างกันออกไป บ้างก็บอกว่าเหมือนได้กินผลไม้ 3 ชนิดในลูกเดียว คือ มีกลิ่นของมะม่วงน้ำดอกไม้สุก มังคุด และตาลโตนด บ้างก็บอกว่าหวานละมุนคล้ายกับคาราเมลคัสตาร์ด แนะนำว่าก่อนรับประทานควรนำไปแช่เย็นสัก 1-2 ชั่วโมง จะได้เนื้อสัมผัสเย็นชื่นใจเหมาะกับช่วงซัมเมอร์นี้สุดๆ 

ประโยชน์ของเอบิว

นอกจากรสชาติและเนื้อสัมผัสที่น่าลองแล้ว เรามาดูประโยชน์ของ เอบิว ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพกัน 

1. มีวิตามินเอและสารต้านอนุมูลอิสระ อย่าง เบตาแคโรทีน ซึ่งมีประโยชน์ต่อดวงตา ช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมตามวัยและส่งเสริมการมองเห็น
2. มีวิตามินซีช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อและโรคต่าง ๆ
3. มีวิตามินบี 3 (ไนอาซิน) ช่วยบำรุงผิวพรรณ ดีต่อระบบประสาทส่วนกลาง และระบบย่อยอาหาร
4. มีแคลอรี่ต่ำและมีใยอาหาร ช่วยให้รู้สึกอิ่มและทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น

หาเอบิวได้จากที่ไหน?

รู้มั้ยว่าเอบิวสามารถปลูกในประเทศไทยได้ด้วยนะ! เพราะบ้านเรามีสภาพอากาศร้อนชื่น แดดดี สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะใน ภาคตะวันออกและภาคใต้ ที่มีฝนตกชุก ดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี และมีความชื้นสูง สามารถปลูกได้ทั้งจากเมล็ดและกิ่งตอน แต่การขยายพันธุ์ด้วยกิ่งตอนจะให้ผลผลิตที่เร็วกว่า และมีลักษณะตรงตามสายพันธุ์มากกว่า 

ส่วนสายพันธุ์ที่ชาวเกษตรกรไทยนิยมปลูกกันคือ สายพันธุ์จากไต้หวัน ใช้ระยะเวลาปลูก 1-2 ปีก็ออกผลผลิตแล้ว ให้ผลขนาดกลางถึงใหญ่ น้ำหนัก 300-600 กรัมต่อผล เนื้อแน่นไม่เละ รสชาติหอมหวาน เปลือกค่อนข้างบาง และมีน้ำยางน้อย สายพันธุ์นี้เองที่ชาวโซเชียลนำไปทำคลิปรีวิวรับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อย

ประเทศไทยมีเกษตรกรที่ปลูกเอบิวไม่มากนัก ทำให้เป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ที่ยังหาซื้อได้ยากในขณะนี้ ส่งผลให้ราคาค่อนข้างสูง อยู่ที่ประมาณ 150-300 บาทต่อกิโลกรัมเลยทีเดียว

ไปกันต่อที่ผลไม้อีกชนิดนึงที่มองแว็บแรกก็ไม่คิดว่านี่คือผลไม้ 

‘ลูกมอนสเตอร่า’ ผลไม้ผิวเกล็ด รสชาติสดชื่นเหมือนผลไม้รวมยกสวน

ลูกมอนสเตอร่าคืออะไร?

ลูกมอนสเตอร่า คือ ผลของต้นมอนสเตอร่า สายพันธุ์เดลิซิโอซ่า (Monstera Deliciosa) หรือ มอนสเตอร่าไจแอนท์ มีถิ่นกำเนิดในเม็กซิโก เป็นต้นไม้ที่มีใบแฉกสวยงาม นิยมใช้ตกแต่งบ้าน โดยชื่อ Monstera Deliciosa มาจากคำว่า Monstrum มีความหมายว่า สัตว์ประหลาด อ้างอิงจากลักษณะของใบ และ Delicious มีความหมายว่า อร่อย อ้างอิงจากรสชาติของผลนั่นเอง

ลักษณะของลูกมอนสเตอร่า คล้ายฝักข้าวโพด มีเปลือกเป็นเกล็ดเรียงติดกันเหมือนรังผึ้ง ใครเป็นโรคกลัวรูอาจจะต้องบอกลาผลไม้ไปก่อน เมื่อสุกเปลือกจะค่อย ๆ หลุดออก เผยให้เห็นเนื้อสีขาวนุ่ม ส่งกลิ่นหอมคล้ายกล้วยและสับปะรด ส่วนรสชาติหวานอมเปรี้ยวเหมือนทานผลไม้หลายชนิดรวมกัน ว่ากันว่าเหมือนกิน ขนุน สับปะรด กล้วยหอม และน้อยหน่าพร้อมกัน ที่ต่างประเทศถึงกับเรียกผลไม้ชนิดนี้ว่า Fruit Salad 

ข้อควรระวัง : ต้องกินตอนผลสุกเต็มที่เท่านั้น สังเกตจากเปลือกเริ่มปริแตกและหลุดออกเอง ผลของมอนสเตอร่าจะไม่สุกพร้อมกันทุกบริเวณ กินเฉพาะส่วนที่เปลือกหลุดออกเองเท่านั้น ส่วนที่ยังไม่สุกดีจะมี ผลึกแคลเซียมออกซาเลต ทำให้เกิดอาการแสบร้อนเหมือนมีเข็มทิ่มอยู่ในปากและลำคอ เรียกได้ว่าจะกินของอร่อยทั้งทีก็ต้องยอมลำบากกันหน่อย

ประโยชน์ของลูกมอนสเตอร่า

นอกจากรสชาติที่อร่อยจนผู้คนทั่วโลกติดอกติดใจแล้ว ลูกมอนสเตอร่ายังให้ประโยชน์กับร่างกายอีกด้วย

1. อุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
2. มีสารอาหารและแร่ธาตุช่วยเติมพลังงานได้ดี ประกอบไปด้วยโปรตีน ฟอสฟอรัส วิตามินซี และคาร์โบไฮเดรตที่สามารถให้พลังงานแก่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว แถมยังแคลอรีต่ำ 
3. ช่วยสมานแผลหลังการฉายรังสีได้ เพราะมีสารอาหารที่ส่งเสริมการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและเพิ่มความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกัน
4. มีไฟเบอร์ที่ส่งเสริมการทำงานของลำไส้ให้ปกติ

หาลูกมอนสเตอร่าได้จากที่ไหน?

ปัจจุบันลูกมอนสเตอร่ายังเป็นผลไม้หายากในไทย ราคาค่อนข้างสูง และมีจำนวนน้อย แม้ว่าต้นมอสเตอร่าจะสามารถปลูกในไทยได้ แต่กว่าต้นจะโตเต็มที่และเริ่มออกผลก็ใช้เวลานานถึง 4-7 ปี และหลังจากติดผลแล้ว ต้องใช้เวลาประมาณ 12-14 เดือน กว่าผลจะสุกพร้อมรับประทาน และด้วยเหตุผลนี้ทำให้ลูกมอนสเตอร่าหายากมาก 

แนะนำให้หาซื้อได้ตามฟาร์มที่ปลูกต้น Monstera Deliciosa เพื่อการค้า ซึ่งอาจต้องสั่งจองล่วงหน้าหรือติดตามร้านผลไม้พรีเมียมที่นำเข้าลูกมอนสเตอร่า โดยราคาต่อลูกอยู่ราว ๆ 300-500 บาท 

ส่ง เอบิวและลูกมอนสเตอร่า ด้วยบริการ Fruit Delivery

หลังจากที่ทุกคนอ่านมาจนถึงตรงนี้ ใครที่กำลังมองหาขนส่งผลไม้แปลกอย่าง เจ้าเอบิว และ ลูกมอนสเตอร่า Inter Express ขอแนะนำบริการ Fruit Delivery บริการขนส่งผักผลไม้แบบไม่ควบคุมอุณหภูมิตอบโจทย์การส่งผลไม้เมืองร้อน เพียงแค่เตรียมแพ็คผลไม้ตามคำแนะนำด้านล่างได้เลย

คำแนะนำสำหรับส่งเอบิวและลูกมอนสเตอร่า

• สำหรับ เอบิว เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีเปลือกค่อนข้างบาง แนะนำให้ห่อผลไม้ด้วยตาข่ายโฟม และรองด้วยวัสดุกันกระแทก จะช่วยไม่ให้ผลช้ำเสียหายขณะขนส่ง
• สำหรับ ลูกมอนสเตอร่า แนะนำให้ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ หรือพลาสติกกันกระแทก ป้องกันเปลือกปริแตกและเนื้อได้รับความเสียหาย

ส่วนกล่องบรรจุภัณฑ์สามารถเลือกแพ็่คส่งได้ 2 รูปแบบ

1. แพ็คใส่กล่องกระดาษที่มีการเจาะรูมาจากโรงงาน (ห้ามเจาะรูเองนะ)
2. แพ็คใส่ตะกร้าที่มีฝาปิด เพื่อระบายความร้อนและทำให้ผลไม้ภายในกล่องมีอากาศถ่ายเทสะดวก

*ค่าส่งเริ่มต้น 3 กิโลกรัม จ่ายเหมา ๆ แค่ 50 บาทส่งได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

อยากลองผลไม้แปลกที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ อย่าง เอบิว ลูกมอนสเตอร่า ต้องใช้บริการ Fruit Delivery จาก Inter Express มั่นใจของถึงมือคุณอย่างปลอดภัย! 

---

ส่งผลไม้ถึงที่ปลอดภัยไว้ใจ Inter Express

ขอบคุณที่มา
https://www.technologychaoban.com
gardenandfarm.baanlaesuan.com
my.klarity.health/health-benefits-of-abiu-fruit/
www.potsandpans.in
herbaria.plants.ox.ac.uk
www.youtube.com/watch?v=5swiZtfWIl0