ไข่ผำ พืชพื้นบ้านแสนธรรมดาที่ถูกจับตามองจากต่างชาติ ด้วยประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการมากมายจนได้รับการยอมรับจากทั่วทุกมุมโลก และถูกขนานนามว่าเป็น ซูเปอร์ฟูด (Superfood) โดยปัจจุบันกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดนโยบายอาหารแห่งอนาคต (Future Food Policy) เป็นหนึ่งในนโยบายหลักเพื่อสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับเกษตรกรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ พร้อมเดินหน้าส่งเสริมให้ไข่ผำกลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ในอนาคต
ทำความรู้จักไข่ผำ
หากจะพูดถึง Superfood สุดยอดอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง หลายคนคงนึกถึงไข่ผำพืชขนาดจิ๋ว อาหารพื้นบ้านที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย แต่ใครจะรู้ว่าแท้จริงแล้วไข่ผำเกิดจากอะไร มีประโยชน์ดีต่อร่างกายอย่างไร แล้วข้อควรระวังในการกินไข่ผำล่ะ มีอะไรต้องระวังบ้าง วันนี้ Inter Express ชวนทุกคนมาหาคำตอบไขข้อข้องใจเรื่อง ไข่ผำ ไปพร้อมกัน
‘ไข่ผำ’ หรือ ‘ผำ’ หรืออีกหนึ่งชื่อเรียก ‘ไข่น้ำ’ ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Wolffia globosa เป็นพืชน้ำขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นเม็ดกลม ๆ สีเขียวขนาดเล็กคล้ายไข่ปลา ลอยอยู่บริเวณผิวน้ำ มักเกิดในแหล่งน้ำสะอาดที่เป็นน้ำนิ่ง เช่น ห้วย, บึง, หนองน้ำ เป็นต้น จัดเป็นพืชตระกูลเดียวกับแหนต่างกันที่มีขนาดเล็ก ไม่มีราก และพบได้ตามแหล่งน้ำสะอาดเท่านั้น
ประโยชน์ของ ไข่ผำ
ไข่ผำ จัดว่าเป็นพืชที่ให้ปริมาณโปรตีนสูงมาก สามารถเจริญเติบโตได้เร็วโดยใช้ทรัพยากรการผลิตต่ำ ให้ผลผลิตดี และมีกรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการครบถ้วน อีกทั้งยังอุดมไปด้วยสารอาหารจำเป็นต่าง ๆ อีกมากมาย ได้แก่
- เหล็ก แคลเซียม สังกะสี ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน เสริมกระดูก และช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิต
- วิตามินบี12 ช่วยเรื่องการทำงานของระบบประสาท
- วิตามินเอ ลูทีน (Lutein) ซีแซนทีน (Zeaxanthin) ช่วยบำรุงสายตา
- วิตามินบีรวม (B Complex), วิตามินซี, วิตามินอี, วิตามินเค รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ อีกมากมาย
- ไฟเบอร์สูง ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร
- มีระดับแคลอรี, น้ำตาล และไขมันต่ำ เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
ไข่ผำ ไม่ได้มีประโยชน์แค่ในแง่ของสารอาหารต่าง ๆ แต่ยังช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศได้อีกด้วย อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการช่วยบำบัดน้ำเสีย โดยไข่ผำจะช่วยให้ปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำมีค่าสูงขึ้น ความเป็นกรดด่างอยู่ในระดับกลาง และช่วยให้ค่าความขุ่นของน้ำเสียต่ำลงได้ อย่างไรก็ตามเราไม่ควรนำไข่ผำที่ใช้บำบัดน้ำเสียมารับประทาน เพราะอาจมีสารเคมีตกค้างและอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้
ข้อควรระวังในการรับประทานไข่ผำ
- ควรปรุงสุกก่อนรับประทานทุกครั้ง เนื่องจากไข่ผำสดมีสารพิษต้านฤทธิ์สารอาหาร และอาจมีการปนเปื้อนจากอื่น ๆ ได้
- ควรล้างไข่ผำให้สะอาดก่อนนำมาปรุงอาหาร
- ควรเลือกซื้อไข่ผำจากแหล่งที่ไว้ใจได้ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากสารเคมีและยาฆ่าแมลงที่อาจส่งผลเสียต่อร่างกาย
- ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เพราะในไข่ผำมีสารพิวรีน (Purine) หากรับประทานมากเกินพอดีอาจส่งผลเสียกับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไตได้
ไข่ผำสด VS ไข่ผำอบแห้ง แบบไหนดีกว่ากัน?
จะไข่ผำสด หรือไข่ผำอบแห้ง ก็มีดีเหมือนกัน ไม่ว่าจะแบบไหนคุณประโยชน์ในตัวไข่ผำก็ยังคงเดิม แต่ไข่ผำอบแห้งจะเป็นการนำไปอบเพื่อให้ง่ายต่อการจัดเก็บ และเพิ่มอายุของตัวไข่ผำให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้น ความแตกต่างของไข่ผำทั้ง 2 แบบนี้ คือ เนื่องจากไข่ผำอบแห้งจะถูกนำไปอบเพื่อดึงน้ำออกจากตัวไข่ผำ ส่งผลให้รสชาติ และสัมผัสของการรับประทานไข่ผำอาจแตกต่างไปจากไข่ผำแบบสด และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือ ไข่ผำอบแห้งจะสามารถเก็บรักษาได้ง่าย และมีอายุนานกว่าแบบสดนั่นเอง ฉะนั้นไม่ต้องกังวลไปว่าหากซื้อไข่ผำอบแห้งมาแล้วจะไม่มีประโยชน์ เพราะไม่ว่าจะแบบไหนคุณประโยชน์แน่นเหมือนกัน
แนะนำ 2 เมนูไข่ผำ
แกงไข่ผำซี่โครงหมู
วัตถุดิบ
- ซี่โครงหมู 1 กิโลกรัม
- ไข่ผำ 200 กรัม
- พริกจินดาแดง 10 เม็ด
- น้ำมะขามเปียก ½ ถ้วยตวง
- น้ำสะอาด 2 ลิตร
- น้ำปลา ½ ถ้วยตวง
- ข่า 5 แว่น
- ตะไคร้ 1 ต้น
- ใบมะกรูด 2 ใบ
วิธีทำ
- เตรียมซี่โครงหมูหั่นชิ้นไว้ จากนั้นโขลกพริกให้พอแหลก หั่นข่าเป็นแว่น และหั่นตะไคร้เป็นท่อนแล้วทุบ
- ตั้งน้ำสะอาดให้ร้อน จากนั้นใส่ซี่โครงหมูลงไป
- รอจนน้ำเดือด จากนั้นใส่ข่า, ตะไคร้, ใบมะกรูด เคี่ยวจนซี่โครงเปื่อย อย่าลืมหมั่นช้อนฟองออก
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำมะขามเปียก, พริก จากนั้นต้มต่อให้เดือดอีกครั้ง
- ใส่ไข่ผำตามลงไป จากนั้นตักเสิร์ฟ ระวัง หากตั้งไฟนานเกินไปไข่ผำอาจเกิดสีคล้ำได้
ออมเล็ตไข่ผำ
วัตถุดิบ
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- เกลือ
- วิปปิ้งครีม 1 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ผำ ปริมาณตามชอบ
- เนย
วิธีทำ
- ล้างไข่ผำให้สะอาดเตรียมไว้
- ตอกไข่ใส่ชามผสม จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย และใส่วิปปิ้งครีมลงไปผสมให้เข้ากัน
- ใส่ไข่ผำลงไป จากนั้นคนให้พอเข้ากัน
- ตั้งกระทะใช้ไฟกลางค่อนอ่อน จากนั้นใส่เนยลงไปกลิ้งให้ทั่วกระทะ
- เทออมเล็ตไข่ผำลงไป ค่อย ๆ คนตะล่อมออมเล็ต เมื่อสุกได้ประมาณ 60% ค่อย ๆ จับออมเล็ตม้วนจากนั้นตักเสิร์ฟ
วิธีขยายพันธุ์ และการเพาะเลี้ยงสำหรับจำหน่าย
การเพาะเลี้ยง
ไข่ผำสามารถเพาะเลี้ยงได้ทั้งในบ่อซีเมนต์, กะละมัง, อ่างน้ำ, โอ่ง รวมไปถึงบ่อปลาขนาดเล็ก สมควรเลี้ยงในที่ร่ม หรือในที่ที่มีแสงรำไรเท่านั้น แต่หากจำเป็นต้องเลี้ยงในพื้นที่กลางแจ้ง ควรพลางแสงด้วยสแลน 50% โดยมีวิธีเตรียมบ่อเพื่อเพาะเลี้ยงไข่ผำ ดังนี้
- กรองน้ำสะอาดใส่ถัง หรือบ่อที่จะใช้เลี้ยงไข่ผำ เส้นผ่านศูนย์กลางบ่อ 1.2 เมตร ใช้น้ำสูงระดับ 20-30 ซม. ให้โดนอากาศเล็กน้อย
- จากนั้นละลายปุ๋ยใส่ถังหรือบ่อที่ใช้เลี้ยง โดยใช้ปุ๋ยสูตร 16-16-16 จำนวน 100 กรัม เพื่อเป็นตัวช่วยในการเพิ่มธาตุอาหารในน้ำ
- นำพันธุ์ไข่ผำปล่อยลงน้ำ แล้วรอไข่ผำค่อย ๆ ขยายจำนวนจนเต็มบ่อ
การเก็บเกี่ยวผลผลิต
ไข่ผำสามารถเก็บเกี่ยวได้ 2 แบบ คือ เก็บหลังเลี้ยงครบ 1 เดือนทีเดียว หรือแบ่งเก็บเป็นรอบ เก็บบางส่วนหลังจากเลี้ยงไปแล้ว 6-10 วัน จากนั้นปล่อยให้ส่วนที่เหลือขยายพันธุ์ต่อแล้วเก็บเกี่ยวเรื่อย ๆ
ไข่ผำนับว่าเป็นพืชน้ำขนาดจิ๋วที่มีคุณประโยชน์มากมาย อีกทั้งยังเป็นพืชที่ทั่วโลกให้ความสนใจและถูกพูดถึงว่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่แห่งอนาคต หากใครสนใจนำไปเพาะขยายพันธุ์เพื่อรับประทานในครัวเรือน หรือจะปลูกขายก็นำวิธีข้างต้นที่กล่าวมาไปลองปลูกกันได้เลย
จะไข่ผำแบบไหนก็ส่งได้ทั่วประเทศ โดย Inter Express
หากคุณเป็นผู้ประกอบการที่เพาะเลี้ยงไข่ผำไว้เพื่อทำธุรกิจเพาะขายทั่วประเทศ แต่ประสบปัญหาในการจัดส่ง ส่งไปแล้วไข่ผำไม่สด เหี่ยว หรือปัญหาอื่น ๆ วันนี้ Inter Express เข้ามาช่วยจัดการปัญหานี้แล้ว ด้วย Inter Cool บริการขนส่งกล่องกระดาษเย็น หรือ Normal/Express Delivery บริการขนส่งสินค้าทั่วไป จะส่งไข่ผำแบบสด หรือแบบอบแห้งก็ตอบโจทย์ เพราะเรามีให้เลือกทั้งบริการขนส่งแบบแช่เย็น และขนส่งแบบอุณหภูมิปกติ ส่งตรงถึงหน้าประตูบ้านทุกพื้นที่ทั่วประเทศ มั่นใจได้เลยว่าไข่ผำในกล่องจะยังคงความสด อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ดังเดิมตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
ที่มา :