กล่องกระดาษ เป็นอุปกรณ์สำคัญในการจัดส่งพัสดุ เพราะเมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องจัดส่งสิ่งของ เล็ก ใหญ่ กล่องกระดาษก็จะถูกเลือกใช้งานเป็นอย่างแรก เหมือนเป็นเรื่องประจำในการส่งพัสดุไปแล้ว
ซึ่งพัสดุแต่ละประเภท ก็ต้องมีความจำเป็นที่จะต้องเลือก กล่องกระดาษ ให้เหมาะสมกับสินค้าประเภทนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็น สิ่งของทั่วไป, ผลไม้, อาหารสด, อาหารแห้ง ของควบคุมอุณหภูมิ แช่เย็น แช่แข็ง หรือไม่ต้องควบคุมอุณหภูมิ เพื่อให้การจัดส่งพัสดุของคุณ ไม่เกิดความเสียหาย ก่อนที่จะถึงที่หมายปลายทาง จึงจำเป็นต้องเลือกใช้งานกล่องพัสดุ ให้เหมาะสมกับบริการนั้น ๆ
บริการของ Inter Express ที่ต้องแพ็คกล่องกระดาษ
1. NORMAL/EXPRESS DELIVERY บริการ จัดส่งพัสดุทั่วไป
เป็นการจัดส่งพัสดุที่คนไทยน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ซึ่งสามารถให้ลูกค้าจัดส่งพัสดุได้ไม่ว่าจะเป็น พัสดุด่วน พัสดุกล่องเล็กหรือใหญ่ เป็นบริการที่กำหนดให้ทางลูกค้าแพ็คสินค้าลงในกล่องกระดาษก่อนที่จะนำมาส่งให้ตามศูนย์ให้บริการสาขาต่าง ๆ ทั่วประเทศ
2. FRUIT DELIVERY บริการ ขนส่งผัก-ผลไม้
เป็นบริการจัดส่งผัก และผลไม้ โดยเฉพาะ เหมาะกับชาวสวนและเกษตรกรที่ต้องการจำหน่ายผลผลิตไปยังลูกค้าด้วยตนเอง สามารถจัดส่งผลผลิตที่ไม่จำเป็นต้องควบคุมอุณหภูมิอย่างเช่น ทุเรียน, มังคุด, สละ, ลำไย, ส้ม, มะม่วง ฯลฯ
3. INTER COOL บริการขนส่งกล่องกระดาษเย็น
หนึ่งในบริการจัดส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิของ Inter Express ที่สามารถให้ลูกค้าแพ็คสินค้าลงกล่องกระดาษ และจัดส่งได้แบบ แช่เย็น แช่แข็ง
การเลือก กล่องกระดาษ สำหรับจัดส่งพัสดุ
กล่องกระดาษลูกฟูกเป็นที่นิยมใช้กันในการจัดส่งพัสดุ เป็นกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย และมีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม สำหรับผู้ที่ต้องการจัดส่งพัสดุ อาจเกิดข้อสงสัยว่าแล้วพัสดุของเรา เหมาะกับกล่องกระดาษแบบใด
1. กล่องสำหรับสินค้าทั่วไป
สำหรับสินค้าทั่วไปแล้วสามารถเลือกกล่องกระดาษความหนา 3 ชั้น และมีลูกฟูกเพียง 1 ชั้นก็เพียงพอ สำหรับสินค้าที่มีน้ำหนักไม่มากนัก
แต่ถ้าสินค้าของคุณมีน้ำหนักที่มากควรเลือกกล่องพัสดุที่มีความหนามากขึ้นตามความเหมาะสมของสินค้า
2. กล่องสำหรับผลไม้
เนื่องจากการส่งผลไม้จะมีน้ำหนักที่มากและมีรูปทรงแตกต่างกันไป ซึ่งไม่พอดีในการบรรจุลงในกล่อง อาจทำให้บางจุดในกล่องจะรับน้ำหนักที่ไม่เท่ากันฅ
ในการเลือกกล่องกระดาษสำหรับผลไม้จึงควรมีความหนาและแข็งแรงมากกว่ากล่องกระดาษลูกฟูกทั่วไป โดยความหนาที่แนะนำควรจะหนา 5 ชั้นขึ้นไป จะสามารถรับน้ำหนักได้ 10 กิโลกรัมขึ้นไป และถ้าจำเป็นที่ต้องใช้กล่องที่มีรูระบาย ก็ไม่ควรเจาะรูเองเพราะอาจทำให้โครงสร้างของกล่องเสียหายได้
3. กล่องสำหรับสินค้า แช่เย็น แช่แข็ง
เนื่องจากการจัดส่งแบบแช่เย็นหรือแช่แข็ง จะมีความชื้นที่เกิดในการควบคุมอุณหภูมิ กล่องกระดาษที่ต้องเลือกใช้ จึงควรมีความหนามากกว่ากล่องกระดาษทั่วไปขึ้นมา 3-4 ชั้น และควรมีการเคลือบสารกันชื้นที่บริเวณพื้นผิว เพื่อไม่ให้กล่องกระดาษเสียหายที่เกิดขึ้นจากความชื้น ในตู้ควบคุมอุณหภูมิ หรือ Cool Container
ทั้งนี้การจัดส่งโดยการแพ็คสินค้าลงในกล่องกระดาษ ควรมีวัสดุกันกระแทกอย่างเช่น บับเบิ้ล, เศษกระดาษฝอย เป็นต้น เพื่อป้องกันสินค้าที่มีความเปราะบางไม่ให้เกิดความเสียหาย