ทำความรู้จัก เพียวมัทฉะ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมาแรงแห่งปี 2025 กระแสแรงจนผงมัทฉะขาดตลาดทั่วโลก พร้อมแนะนำการเลือกผงมัทฉะ และแชร์วิธีเก็บรักษาผงมัทฉะให้คงคุณภาพยาวนาน
เมื่อไม่นานมานี้มีกระแสข่าวผงมัทฉะขาดตลาดทั่วโลก ทำเอาแฟนมัทฉะตกใจไปตาม ๆ กัน และที่น่าสนใจคือมัทฉะไม่เพียงแค่เป็นที่ต้องการของคนเอเชียเท่านั้น แต่ในหลายประเทศทั่วโลกก็ให้ความสนใจมัทฉะมากขึ้น พบว่าออสเตรเลีย อังกฤษ และอเมริกา มีการค้นหามัทฉะใน google สูงขึ้น ยิ่งช่วงนี้มีเทรนด์เครื่องดื่มสุด healthy อย่าง เพียวมัทฉะ เมนูที่นำผงมัทฉะมาผสมกับน้ำเปล่าเพียว ๆ ไม่ใส่ส่วนผสมอย่างอื่น ประโยชน์เยอะ ยิ่งทำให้ความต้องการผงมัทฉะเพิ่มสูงขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าร้านเติมสต็อกเมื่อไหร่ สินค้าก็พร้อม sold out ภายในไม่กี่วัน
กระแส เพียวมัทฉะ มาจากไหน
กระแสที่มาแรงจนฉุดไม่อยู่มาจากเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์คนดังทั้งไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะอินฟลูสายสุขภาพและความงาม ที่มักจะโพสต์คอนเทนต์ดื่มมัทฉะในชีวิตประจำวัน แสดงวิธีการชงมัทฉะที่ดูไม่ยุ่งยาก ทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ชวนให้ผู้ติดตามอยากลองทำตาม ทั้งยังมีคอนเทนต์บอกประโยชน์ของการดื่มมัทฉะ โดยเฉพาะเมนู เพียวมัทฉะ ไม่ผสมน้ำตาล ไม่ผสมนมหรือครีม ยิ่งให้ประโยชน์กับร่างกายมากขึ้น หลายคนก็ออกมาโพสต์คลิปชงมัทฉะตาม ๆ กัน จนเรียกได้ว่าเข้าโซเชียลมีเดียเมื่อไหร่ ต้องเห็นเมนูเพียวมัทฉะในฟีดเมื่อนั้น
วันนี้ Inter Express จะพาทุกคนมาทำความรู้จักเจ้าเครื่องดื่มเพียวมัทฉะ ว่าส่งผลดีต่อสุขภาพยังไง พร้อมเกร็ดความรู้วิธีการเลือกผงมัทฉะเบื้องต้น ถ้าอ่านจนจบรับรองคุณจะเข้าใจโลก ของมัทฉะเพิ่มขึ้นแน่นอน
เพียวมัทฉะ คืออะไร?
เพียวมัทฉะ (Pure Matcha) หรือ Clear Matcha หรือ มัทฉะแบบใส เป็นเมนูที่นำเอาผงมัทฉะไปชงกับน้ำร้อนอุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส โดยปกติจะนิยมใช้อุปกรณ์ตีชาที่เรียกว่า ฉะเซ็น ตีจนมัทฉะขึ้นฟองละเอียด แล้วเทใส่แก้วที่ใส่น้ำและน้ำแข็งเตรียมไว้ คล้ายกับวิธีการทำอเมริกาโนเย็น จะเห็นว่าเมนูนี้ไม่มีส่วนผสมอื่นเลย ตรงตามชื่อเพียวมัทฉะ รสชาติหลัก จึงขึ้นอยู่กับผงมัทฉะ เรามาดูวิธีเลือกมัทฉะให้เหมาะกับความต้องการของเรากัน
มัทฉะมีกี่ประเภท เลือกอย่างไร
มัทฉะ คือ ผงชาที่ผลิตมาจากใบเทนฉะ (Tencha) ซึ่งต้นชาเหล่านี้จะได้รับการปลูกแบบคลุมแสงนานกว่า 20 วัน ก่อนจะค่อย ๆ ถูกคัดยอดใบชาที่ดีที่สุด เพื่อนำไปเข้าสู่กระบวนการนึ่ง และการโม่บดให้ใบเทนฉะนั้นออกมาเป็นผงชาที่มีสีเขียวสวยและคุณภาพดี โดยปัจจัยที่ทำให้มัทฉะมีสีหรือคุณภาพที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับแหล่งที่ปลูก สายพันธุ์ ฤดูกาลเก็บเกี่ยว สภาพอากาศ และดินในแต่ละปี รวมไปถึงการโม่ที่สามารถส่งผลถึงคุณภาพของผงชาได้ด้วยเช่นกัน ยิ่งมัทฉะเกรดสูงมากเท่าไร ตัวผงชาก็จะมีสีเขียวสดขึ้นเท่านั้น ให้รสที่ขมน้อยลง หรือแทบไม่ขมเลย แถมมีความอูมามิเพิ่มขึ้นด้วย เพราะแบบนี้เอง มัทฉะจึงได้ถูกแบ่งเกรดเพื่อนำไปใช้งานให้เหมาะสม แบ่งออกเป็น 2 เกรดกว้าง ๆ ดังต่อไปนี้
Ceremonial Grade (มัทฉะเกรดพิธีการ) ทำจากยอดอ่อนของใบชา สีของผงชาจะมีความเขียวสด เนื้อละเอียดเนียนไปกับน้ำเมื่อชง และให้รสชาตินุ่มนวล ขมเล็กน้อยไปจนถึงไม่มีรสขมเลย นิยมใช้สำหรับการชงดื่มแบบเพียว ๆ เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด แนะนำให้ใช้มัทฉะเกรดนี้ สำหรับทำเพียวมัทฉะ จะช่วยให้ดื่มได้ง่าย
Culinary Grade (มัทฉะเกรดทำอาหาร) ใช้ใบชาที่มีอายุมากขึ้น ทำให้สีของผงมัทฉะออกเขียวเข้ม หรือ อมเหลือง เนื้อสัมผัสหยาบกว่าเล็กน้อย รสชาติจะเข้มข้นและอาจจะมีความขมและฝาดมากกว่า จึงเหมาะกับการใช้ทำเบเกอรี่, เครื่องดื่มผสมนม หรืออาหารที่ต้องการเพิ่มกลิ่นและรสชาเขียว หากนำมาทำเพียวมัทฉะ ก็อาจได้รสชาติขมฝาด ดื่มยากหน่อย
อีกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับมัทฉะคือ Taste Nose หรือกลิ่นและรสชาติของมัทฉะ หลายคนที่กำลังหาซื้อผงมัทฉะ หรือสั่งเมนู เพียวมัทฉะ อาจจะเคยเห็นทางร้านแจ้ง Taste Nose ให้เราเลือกก่อนสั่งซื้อ บอกเลยว่ามีกลิ่นหลากหลายจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นโทนถั่ว สาหร่าย หรือผลไม้ กลิ่นเหล่านี้เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ทั้งสายพันธุ์ วิธีการปลูก การดูแล วิธีการเก็บเกี่ยว กระบวนการเก็บรักษา และการแปรรูป ล้วนส่งผลต่อกลิ่นทั้งสิ้น ถือเป็นโอกาสที่ดีจะได้ลองกลิ่นและรสชาติมัทฉะที่หลากหลาย เพิ่มความสนุกในการดื่มมัทฉะไปอีก Taste Nose ที่ฮิตในโซเชียลมีเดียตอนนี้คือ มัทฉะโทนถั่ว ชาวโซเชียลแนะนำว่ามีความมันนัว อูมามิสุด ๆ
ประโยชน์ของการดื่ม เพียวมัทฉะ
- กระตุ้นการเผาผลาญพลังงานและไขมัน มัทฉะมีสารแคทีชิน (catechins) และคาเฟอีนที่ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน ซึ่งสามารถช่วยในการลดไขมันและส่งเสริมการลดน้ำหนักได้
- ผิวสุขภาพดี ดูอ่อนกว่าวัย มัทฉะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น EGCG (Epigallocatechin gallate) ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากการเสื่อมสภาพจากแสงแดดและการอักเสบ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาที่แสดงว่า EGCG ช่วยลดการเกิดริ้วรอยและทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์
- ร่างกายตื่นตัว สมองทำงานได้ดีขึ้น คาเฟอีนในมัทฉะช่วยเพิ่มความตื่นตัวและช่วยในการโฟกัส รวมถึงมีกรดอะมิโนที่ชื่อ L-theanine ซึ่งช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น โดยช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสามารถในการรับรู้ มัทฉะหนึ่งแก้ว มีคาเฟอีนประมาณ 70 มก. เมื่อเทียบกับกาแฟ 100-140 มก.
- ดีท็อกซ์ร่างกาย ขับถ่ายสารพิษ มัทฉะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการล้างสารพิษออกจากร่างกาย รวมถึงการกระตุ้นระบบย่อยอาหาร ซึ่งช่วยให้ร่างกายสามารถขับสารพิษและของเสียออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ช่วยให้ผ่อนคลาย ลดความตึงเครียด L-theanine ที่พบในมัทฉะช่วยกระตุ้นการผลิตสารเซโรโทนินและโดปามีนในสมอง ซึ่งช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด และเพิ่มสมาธิ แม้ว่ามัทฉะจะมีคาเฟอีน แต่ L-theanine จะช่วยทำให้ความตื่นตัวเกิดขึ้นแบบนุ่มนวลและไม่กระตุ้นให้รู้สึกวิตกกังวล
- ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และหลอดเลือด เนื่องจากสารแคทีชินในมัทฉะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลไม่ดี (LDL) และช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด
แนะนำร้านมัทฉะแท้ คุณภาพพรีเมี่ยม
สำหรับใครที่สนใจผงมัทฉะคุณภาพ ผลิตจากผู้เชี่ยวชาญด้านชาโดยเฉพาะ ขอแนะนำร้าน Motch Millhouse (มอทช์ มิลล์เฮ้าส์) ร้านนี้มีกรรมวิธีผลิตผงชาสูตรเฉพาะ โม่ชาสดใหม่รสชาติมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีชาให้เลือกหลากหลาย ทั้ง Matcha, Hojicha และ Mo-Cha ตัวผงมัทฉะผลิตจากใบชานำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นคุณภาพพรีเมี่ยม ใครสนใจสามารถสั่งซื้อได้เลย ทางร้านจัดส่งด้วยบริการขนส่งกล่องกระดาษเย็น Inter Cool กับ Inter Express ที่สามารถรักษาคุณภาพของผงมัทฉะให้ยังมีกลิ่น สี และรสชาติที่ดี นอกจากนี้ทางร้านยังมี Workshop สอนวิธีการชงมัทฉะลาเต้ ที่ให้ความรู้อัดแน่นตั้งแต่ทำความรู้จักชาญี่ปุ่นแต่ละชนิด การเลือกอุณหภูมิน้ำสำหรับชงมัทฉะให้อร่อย ไปจนถึงการเลือกนมสำหรับทำมัทฉะลาเต้ ใครอยากรู้จักมัทฉะให้ลึกขึ้นต้อง Motch Millhouse เท่านั้น
วิธีเก็บรักษาผงมัทฉะให้คงคุณภาพยาวนาน
1. ควรเก็บไว้ในภาชนะทึบแสง และเป็น Air Tight (ไม่สัมผัสอากาศ) เพราะแสงอาจทำลายคลอโรฟิลล์ในมัทฉะส่งผลต่อรสชาติและสารอาหารได้ ควรระวังมัทฉะสัมผัสกับออกซิเจนในอากาศนาน ๆ จะเกิดการออกซิไดซ์ ส่งผลให้เกิดกลิ่นเหม็นอับและมีรสขมขึ้น ดังนั้นบรรจุภัณฑ์ที่แนะนำคือ กระป๋องที่มีฝาปิดแน่นป้องกันอากาศถ่ายเท, โหลพร้อมซีลซิลิโคน และ ถุงซิปล็อกหรือถุงซีลสูญญากาศ
2. แนะนำให้เก็บผงมัทฉะในตู้เย็นช่องแช่ปกติ เพื่อควบคุมอุณหภูมิให้คงที่และหลีกเลี่ยงปัญหาความชื้น การเก็บไว้ในที่เย็นและมืดส่งผลต่อการรักษาคุณภาพของสารอาหารในมัทฉะ ประเทศไทยอากาศค่อนข้างร้อน ไม่ได้มีอุณหภูมิเย็นเหมือนที่ญี่ปุ่น การวางไว้นอกตู้เย็นอาจจะไม่สามารถรักษาสภาพมัทฉะได้ดี ยิ่งใครนาน ๆ จะทานมัทฉะที หรือซื้อมัทฉะจำนวนมากไม่ได้ใช้บ่อยแนะนำให้เก็บไว้ในช่องแช่แข็งจะสามารถควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ได้ดีกว่าและเก็บไว้ได้หลายเดือน
3. เมื่อนำออกจากตู้เย็นเพื่อจะใช้งาน แนะนำให้วางให้หายเย็นก่อนสัก 45 นาที เพื่อปรับอุณหภูมิ หากมีไอน้ำเกาะภาชนะให้เช็ดออกจนแห้งสนิทก่อนเปิดภาชนะใช้งานได้ วิธีนี้จะช่วยลดความชื้นที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิซึ่งจะทำให้มัทฉะรวมตัวเป็นก้อน
4. การขนส่งด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสม อีกสิ่งที่หลายคนอาจจะมองข้ามเมื่อสั่งซื้อผงมัทฉะ คือเรื่องการจัดส่ง อย่างที่ทุกคนทราบว่า ผงมัทฉะมีความอ่อนไหวกับอุณหภูมิ การจัดส่งด้วยขนส่งทั่วไปอาจทำให้ผงมัทฉะได้รับความร้อนมากเกินไป ส่งผลให้สารต้านอนุมูลอิสระในมัทฉะสลายตัว แนะนำให้เลือกบริการขนส่งควบคุมอุณหภูมิที่คงคุณภาพมัทฉะให้นานขึ้น
บริการขนส่งควบคุมอุณหภูมิ คงคุณภาพผงมัทฉะ ถึงมือผู้รับทั่วไทย
เรื่องการขนส่งควบคุมอุณหภูมิไว้ใจ Inter Express เป็นผู้ดูแล หมดกังวลผงมัทฉะสูญเสียคุณภาพระหว่างทาง ด้วยบริการขนส่งกล่องกระดาษเย็น (Inter Cool) ที่สามารถรักษาอุณหภูมิ และคุณภาพของ ผงมัทฉะ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง จัดส่งด้วย รถห้องเย็น ที่เปิดแอร์รักษาอุณหภูมิสินค้าตลอดทาง ก่อนจัดส่งพี่พนักงานขนส่งจะโทรแจ้งผู้รับสินค้าก่อนนำส่ง เพื่อส่งกับมือลูกค้า รับรองมัทฉะยังคงคุณภาพดีเหมือนไปซื้อหน้าร้าน ที่สำคัญเราจัดส่งได้ทั่วประเทศไม่มีพื้นที่ยกเว้น
ข้อมูลอ้างอิง